ในยุคที่รถ EV เข้ามาเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ใช้รถ เพื่อทดแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน และอีกหนึ่งวัตถุประสงค์หลักที่สำคัญเลยก็คือ ช่วยลดมลพิษทางอากาศ รวมถึงลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในระดับโลก ซึ่งนับได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในการคิดค้น พัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อเรามาดูกันดีกว่า ว่าจริงๆแล้วรถยนต์ไฟฟ้ามีทั้งหมดกี่ประเภท และรถยนต์ไฟฟ้าแบบไหนกันที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้มากที่สุด
1.HEV รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid electric vehicle)
รถยนต์ไฮบริด เป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบบลูกผสม (Hybrid) มีทั้งเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปและมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ จึงมีความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่ายานยนต์ปกติ รวมทั้งยังสามารถนำพลังงานกลที่เหลือหรือไม่ใช้ประโยชน์เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บในแบตเตอรี่ แต่ไม่มีช่องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้า
ตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด
›Toyota Camry Hybrid (โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด)
›Toyota C-HR Hybrid (โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ไฮบริด)
›Toyota Alphard Hybrid (โตโยต้า อัลฟาร์ด ไฮบริด)
›Toyota Prius Hybrid (โตโยต้า พรีอุส ไฮบริด)
›Toyota Altis Hybrid (โตโยต้า อัลติส ไฮบริด)
›Honda Accord Hybrid (ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด)
›Nissan X-Trail Hybrid (นิสสัน เอกเทรล ไฮบริด)
2.PHEV รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle)
เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาต่อยอดมาจาก HEV ซึ่งมีการทำงานทั้ง 2 ระบบ (น้ำมันและไฟฟ้า) แต่เพิ่มระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟขึ้นมา (plug-in) การอัดประจุไฟฟ้าจากภายนอกและนำมาเก็บไว้ที่แบตเตอรี่นั้น ทำให้ PHEV สามารถวิ่งได้ในระยะทางที่ไกลกว่า HEV
ตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด
›BMW plug-in hybrid (บีเอ็มดับเบิลยู ปลั๊กอิน ไฮบริด)
›Mercedes-Benz plug-in hybrid (เมอร์เซเดสเบนซ์ ปลั๊กอิน ไฮบริด)
›Audi plug-in hybrid (รถอาวดี้ ปลั๊กอิน ไฮบริด)
3.FCEV รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง ( Fuel Cell Electric Vehicle)
ไฟฟ้าที่มีเซลล์เชื้อเพลิง เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้พลังงานมาจากเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell) โดยเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจากภายนอก มีความจุพลังงานจำเพาะที่สูงกว่าแบตเตอรี่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เชื่อว่าเป็นคำตอบที่แท้จริงของพลังงานสะอาดในอนาคต แต่อย่างไรก็ตามยังมีข้อจำกัดอย่างสถานีเชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Station) มีน้อยมาก เหมือนที่รถ BEV มี Charging Station ที่น้อยเมื่อหลายปีก่อน
ตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าประเภทเซลล์เชื้อเพลิง
›Toyota Mirai (โตโยต้า มิไร)
›Hyundai Nexo (ฮุนได เนกโซ่)
›Honda Clarity Fuel Cell (ฮอนด้า คลาริตี้ ฟิวเซลล์)
4.BEVรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle)
รถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV เป็นรถพลังงานสะอาดที่แท้จริง โดย BEV จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และใช้พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้า ซึ่งมาจากการเสียบปลั๊กชาร์จไฟฟ้าอย่างเดียว จึงทำให้รถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV ไม่มีการปล่อยไอเสียและมลพิษทางอากาศโดยตรงออกมาจากตัวรถเลย
ตัวอย่างรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่
›Tesla (เทสล่า)
›Nissan Leaf (นิสสัน ลีฟ)
›MG ZS EV (เอ็มจี ซีเอส อีวี)
›Hyundai IONIQ EV (ฮุนได ไอออนิค อีวี)
›BMW i3 (บีเอ็ม ไอ3)
›BYD E6 (บีวายดี อี6)
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันรถยนต์มีหลากหลายประเภทมากขึ้น ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับคุณ สุดท้ายแล้วนั้นควรเลือกรถที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณและอย่าลืมคำนึงถึงเรื่องประกันรถ ที่จะมาช่วยลดค่าใช้จ่ายของคุณเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันประกันดอทคอมขอเป็นที่ปรึกษาเรื่องประกันให้คุณ ไม่ว่าจะรถยนต์แบบไหนรถสันดาปหรือรถยนต์ไฟฟ้า เรามีเบี้ยประกันพร้อมดูแลคุณมากกว่า 30 บริษัทประกันภัย
Comments are closed.